ช่วงนี้ “ข่าวลือ” เรื่องการย้ายทีมหรือนักเตะใหม่ ลอยปกคลุมทั่ววงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง
เพราะการขึ้นทะเบียนนักกีฬารอบสุดท้ายจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 ธ.ค.ถึง 5 ม.ค. 2564 หลายทีมเริ่มขยับกันตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งยืนข้อเสนอแบบถูกต้องตามกระบวนการต่อสโมสรและ “ตีท้ายครัว” แอบคุยนักฟุตบอลเองเพื่อดึงมาเสริมทัพใน “เลกสอง” ข่าวลือจึงมีแทบทุกวัน แต่อันไหน “ชัวร์” หรือ “มั่ว” คงต้องรอเวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบ
1 ในข่าวที่เป็นประเด็นฮอตตอนนี้คือกรณีของ “อ่อง ธู” ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังเมียนมาร์ที่มีข่าวเตรียมคัมแบ็ก “ไทยลีก” อีกครั้งด้วยการไปร่วมทีม “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ไม่มีใครฟันธงว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ แต่ก็มีคำถามตามมาแล้ว ว่าหากมองที่เกมฟุตบอลล้วนๆไม่มีเรื่องกระแสหรือปัจจัยดึงดูดนอกสนาม “อ่อง ธู” จะเบียดลงตรงไหนในทีม “ปราสาทสายฟ้า” ประเด็นนี้เลยเถิดไปถึงข้อถกเถียงเก่าที่วิพากย์กันมายาวนานว่า “โควตาอาเซียน” ตอบโจทย์ ดูบอลสด “ไทยลีก” มากแค่ไหนในแง่ผลงานในสนาม ลองมาดูผลงานนักเตะอาเซียนที่ขึ้นทะเบียนใน “ไทยลีก” ที่กำลงดวลแข้งกันตอนนี้หน่อยแล้วกันว่าแต่ละคนฟอร์มเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากทีมนำจ่าฝูง “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” สอบผ่านแน่ๆ คือ “อีรฟาน ฟานดี” ปราการหลังสิงคโปร์ที่เป็นตัวหลักในแนวรับให้ทีมมาตลอด แต่ช่วงนี้บาดเจ็บเลยห่างหายไป รายของ “นอร์ชาห์รูล ตาลาฮา” กองหน้ามาเลเชียมีโอกาสลงเตะไป 5 นัดยังยิงไม่ได้ ส่วน “อัลวาโร ซิลบา” นักเตะลูกครึ่งฟิลิปปินส์ยังไม่ได้ลงเล่นสักเกม ทีมรองจ่าฝูง “สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด” เลือกไม่ใช่อาเซียนเลย ขณะที่ “การท่าเรือ” ทีมอันดับ 3 มี “มาร์ติน สตูเบิล” ลูกครึ่งฟิลิปปินส์เป็นแค่อะไหล่ในตำแหน่งแบ็กที่เพิ่งได้ลงแค่ 2 นัด ไล่เรียงทีมอันดับอื่นๆต่อไปตามนี้ “ราชบุรี มิตรผล” ใช้บริการ 3 คนเป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ล้วนๆ “ฆาเวียร์ ปาตินโญ” โอเคที่สุดยิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 11 นัด ส่วน “ลุค วู๊ดแลนด์” กับ “จัสติน บาส” เพิ่งมาในช่วง “รีสตาร์ท”
ได้ลงอย่างต่อเนื่องไปคนละ 4 เกม ผลงานยังไม่ถือว่าโดดเด่นเท่าไร “ชลบุรี” มี “คาร์ลี ดี มูร์กา”
นักเตะลูกครึ่งฟิลิปปินส์ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กแค่คนเดียว ผลงานลงสนาม 11 นัดยิงได้ 1 ประตู แต่ฟอร์มโดยรวมยังไม่ใช่ตัวหลัก หลายเกมมีเหวอให้เห็น “สุพรรณบุรี” มี 3 คนที่ถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะลูกครึ่งฟิลิปปินส์ “แพทริก เดย์โต” ที่เป็นนายประตูมือ 1 และ “แพทริก ไรแชลท์” ที่กำลังฮอตกดไปแล้ว 3 ประตู
นอกจากนี้ทีมกำลังจะได้ “ซูลฟาร์มี อารีฟิน” นักเตะสิงคโปร์กลับมาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางอีก “สุโขทัย” มี “ซอ มิน ตุน” นักเตะเมียนมาร์แค่รายเดียวที่พักหลังได้รับโอกาสลงสนามสม่ำเสมอในเกมรับที่เล่นระบบ 3 เซนเตอร์แบ็ก “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” โอเคเหมือนกันกับนักเตะอาเซียน ทั้ง “ดัง วาน ลัม” นายประตูเวียดนามที่ทำผลงานได้ดี รวมถึง “ไดสุเกะ ซาโตะ” ที่ช่วยขับเคลื่อนตรงเกมริมเส้น ดูบอลผ่านเน็ต “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” แม้มีเงินเยอะแต่ใช้แค่คนเดียวหลังได้ “ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด” นายประตูลูกครึ่งฟิลิปปินส์มายืนเฝ้าเสาแก้ปัญหาสำคัญของทีมตรงนี้มาหลายปีแล้ว “โปลิศ เทโร” มีนักเตะมาเลเซีย 2 ราย “โดมินิค ตัน” มาแบบเงียบๆตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่มาฮือฮาคือ “โมฮามาดู ซูมาเรห์” หัวหอกโอนสัญชาติแกมเบียที่เพิ่งลง 1 นัด แต่ยังไม่สำแดงพิษสงอะไร “สมุทรปราการ ซิตี” มี “อิซวาน มาห์บุด” ผู้รักษาประตูสิงคโปร์ย้ายมาใหม่ในช่วงรีสตาร์ท แต่ยังยึดตำแหน่งมือ 1 ไม่ได้ ทว่าผลงานตอนที่ได้ลงสนามถือว่าได้รับคำชื่นชมเลย “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” มีแค่ “เควิน เอนเกรโซ” นักเตะลูกครึ่งฟิลิปปินส์คนเดียวและทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งด้วย แต่กำลังจะหมดสัญญาในเดือนนี้แล้ว “พีที ประจวบ” มีกำลังสำคัญอย่าง “เอียน แรมซีย์” นักเตะลูกครึ่งฟิลิปปินส์ แต่ “สุขอำพร วงษ์เชียงคำ” จากลาวดูจะไม่คลิกกับทีมเท่าไรจึงมีโอกาสลงสนามไปแค่นัดเดียวเท่านั้น “นครราชสีมา มาสด้า” ไม่ใช้บริการแข้งอาเซียน ส่วน “ตราด” มี อามานี อากีนัลโด” ปราการหลังฟิลิปปินส์ที่ทำผลงานได้ดีจนเป็นตัวหลัก แต่ “ซวน ลัม มัง” นักเตะหม่องยังไม่เด่น “ระยอง” ทีมบ๊วยมี “อุดทิลัด นามมะโคด” ผู้รักษาประลาวอยู่ในทีม
แต่ได้ลงไปเกมเดียวแล้ว พลาดจนเป็นประเด็นดังเลยไม่มีโอกาสได้ลงสนามอีกเลย นี่คือภาพรวมผลงานนักเตะ “โควตาอาเซียน” ในลีกสูงสุดเมืองไทย ถูกใจหรือไม่อย่างไรแล้วแต่จะพิจารณา
Comments