ความหวังหนึ่งเดียวของอิตาลี ในเวทียุโรป อย่าง "โรม่า" ผ่านเข้าสู่รอบรองฯของ ยูโรป้าลีก ได้สำเร็จ
แม้ว่าจะทำได้เพียงแค่เสมอกับ อาแจ็กซ์ ในเลกสองที่กรุงโรม 1-1 แต่สกอร์ที่ตุนไว้ก่อน 2-1 จากเลกแรกก็เพียงพอที่จะทำให้ทีม "หมาป่า" ได้ไปต่อ ทีมของ "เปาโล ฟอนเซก้า" ผ่านทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือก ของฟุตบอลยุโรปกันอีกครั้ง ต่อจากเมื่อซีซั่น 2017-18 ที่พวกเขามาได้ถึงรอบนี้ของถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
แต่ถ้าจะนับกันเฉพาะในถ้วยใบเล็ก ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1991 ที่พวกเขาได้เข้าชิงชนะเลิศ(ยูฟ่า คัพ) ก่อนจะไปพ่ายให้กับ อินเตอร์ ดูบอลสด ทีมหมาป่ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก ในยูโรป้าลีกซีซั่นนี้ โดยสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 12 จาก 14 นัด และยังไม่เคยแพ้ใคร ในถิ่น โอลิมปิโก้ ของตัวเอง เช่นเดียวกัน
กับฟอร์มการเล่นของดาวยิงตัวเก่งอย่าง "เอดิน เชโก้" ซึ่งเป็นผู้ทำประตูตีเสมอ ให้กับทีมในเกมนี้ ส่งผลให้เจ้าตัวทำประตูในเกมยุโรป ให้กับทีมหมาป่าไปแล้วถึง 30ลูก เป็นรองแค่ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (46 กับ ยูเวนตุส), ฟิลิปโป้ อินซากี้ (36 กับ มิลาน) และ อังเดร เชฟเชนโก้ (33 กับ มิลาน) เท่านั้น อีกคนที่ควรได้รับเครดิต กับความสำเร็จของโรม่าในครั้งนี้
ก็คือ "เปาโล ฟอนเซก้า" ว่ากันว่าเกมเมื่อคืนนี้ มีผลต่ออนาคตของเทรนเนอร์ ทีมหมาป่าโดยตรง เนื่องจากสัญญาของเขากำลังจะหมดลง หลังจากจบซีซั่นนี้ ฟอนเซก้า ถูกจับตามองเป็นพิเศษจาก "ฟรายด์กิ้น กรุ๊ป" ที่เพิ่งจะเข้ามาเทคโอเวอร์ ในช่วงต้นซีซั่นนี้ โดยโจทย์ที่กลุ่มทุนอเมริกัน ได้ตั้งเอาไว้ให้กับเขา เป็นอันดับแรก
คือต้องพาทีมติด 1 ใน 4 ของเซเรียอาซีซั่นนี้ เพื่อไปเล่นยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าให้ได้ ถ้าเขาทำสำเร็จ ทางผู้บริหารของสโมสร ก็จะมอบสัญญาใหม่ให้กับเขาโดยอัตโนมัติ ปัจจุบัน โรม่า มีแต้มตามหลังทีมอันดับ4 อยู่ถึง 7คะแนน ซึ่งเมื่อดูจากฟอร์ม และมาตรฐานของทีม จากแบร์กาโม่ในชั่วโมงนี้ คงต้องบอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ที่หมาป่า จะไปช่วงชิงกรรมสิทธินั้นมา ทำให้ถ้าหากเขาพลาดจากเป้าหมายแรก สิ่งที่ต้องเอามาทดแทนกัน ก็คือ "โทรฟี่ยูโรป้าลีก" เนื่องจากแชมป์ของรายการนี้ ก็จะได้สิทธิไปลงโชว์ฝีเท้า ในถ้วยใบใหญ่เช่นกัน ที่ผ่านมา ฟอนเซก้า ต้องทำงานท่ามกลางความกดดันมาโดยตลอด เนื่องจากทางบอร์ดบริหาร พยายามจะไปทาบทาม
เทรนเนอร์ มากหน้าหลายตา เพื่อมารอไว้แทนที่เขา มีข่าวจากวงใน เล็ดลอดออกมาอยู่บ่อยครั้งว่า ผู้บริหารของ "ฟรายด์กิ้นกรุ๊ป" ได้ นัดดินเนอร์กับโค้ชคนดัง เว็บสตรีมบอล หลายต่อหลายราย โดยมีชื่อของทั้ง "มัสซีมีเลียโน อัลเลกรี" กับ "เมาริซิโอ ซาร์รี่" ที่ยังว่างงานรวมอยู่ด้วย ส่งผลให้เทรนเนอร์โปรตุกีส จะต้องพยายามนำฝูงหมาป่า
ฝ่าฟันอุปสรรคจนไปถึงตำแหน่งแชมป์ ให้จงได้ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น บันไดขึ้นต่อไปที่ ฟอนเซก้า จะต้องพาทีมก้าวผ่านไปให้ได้ คือเกมในรอบตัดเชือก กับทีมเต็งหนึ่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยฝากความแค้น ให้ทีมอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน เอาไว้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของซีซั่นนี้ โดยในนัดแรก หมาป่า จะต้องบุกไปเยือนถิ่น
โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของคู่ต่อสู้ก่อน ในวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน ก่อนที่จะกลับมาเปิดกรุงโรม ทำศึกในเลกที่สอง 6พฤษภาคม นี้ โรม่า จะเข้าไปชิงฯฟุตบอลยุโรป เป็นหนที่3 ได้หรือไม่? ช่วยส่งกำลังใจ ไปให้หนึ่งเดียวของอิตาลี กันเยอะๆเลย!
Comments