แวดวงฟุตบอลไทยช่วงนี้ตลบอบอวลไปด้วยข่าว “ย้ายทีม”
เพราะ “ตลาดนักเตะ” จะเปิดตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.นี้เพื่อให้ทุกทีมขึ้นทะเบียนผู้เล่นใหม่ลุย “ไทยลีก” เลกสอง ประเด็นของ “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” กลายเป็นเรื่องที่มีคนถามมากที่สุด กระแสข่าวชี้เป้าไปในทิศทางเดียวกันว่า “ตอง” จะกลับมาเล่น “ไทยลีก” แต่ปลายทางของ “กวินทร์ บินได้” ไม่ใช่ “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” ต้นสังกัดเก่าเสียแล้ว
แต่เป็น “การท่าเรือ” ทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งฟุตบอลไทยยุคนี้ที่จะได้ตัวไป เรื่องนี้ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มมีความเป็นไปได้สูง เพราะก่อนหน้านี้นักเตะระดับ “โลโก้” ของ “กิเลนผยอง” อย่าง “ธีรศิลป์ แดงดา” ก็ไม่กลับมาทีมเก่าเหมือนกัน ดังนั้นโอกาสที่ “ตอง” จะไม่กลับ ดูบอลออนไลน์ “เมืองทอง” จึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แม้ทุกคนต่างรู้กันดีว่าสโมสรและนักฟุตบอลมีความผูกพันกันแค่ไหนก็ตาม ที่น่าสนใจนอกเหนือ จากนั้นคือหลายคนเริ่มสงสัยแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทีมใหญ่อย่าง “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” เพราะมีข่าวในทำนองไม่สู้ดีนัก มาตลอดหลายปีที่ถือว่าเป็น “ขาลง” นักเตะตัวเก่งพาเหรด ย้ายออกจากทีมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเก่าๆในระดับ “ลูกหม้อ” ย้ายไปแล้ว ไม่หวนกลับมาเหมือน ที่หลายคนแอบคิดไว้เลย ล่าสุดมีข่าวหลุดมาอีกว่า ผู้สนับสนุนใหญ่และผู้ถือหุ้นสโมสรอย่าง “เอสซีจี” ต้องยุติบทบาท การสนับสนุนทีมหลังจบปี 2020 แม้จะไม่มีการประกาศยืนยันจากสโมสร แต่รายงานข่าวได้รับการยืนยันว่า “เอสซีจี” จะไม่ไปต่อกับ “เมืองทอง ยูไนเต็ด” แน่นอน แต่เรื่องนี้ไม่มีอะไรลึกลับซ่อนเงื่อน ทุกอย่างเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ “สัญญา” และ “นโยบายองค์กร” รายงานข่าวระบุว่าทางสโมสรได้มีการหารือกับ “เอสซีจี” มาตลอด ในระดับที่เรียกว่า “คุยกันรู้เรื่อง” ไม่ได้มีปัญหาหรือทะเลาะอะไรกัน เหตุผลสำคัญคือ “เอสซีจี” หมดสัญญาการสนับสนุนทีมในปี 2020 พอดี และองค์กรมีการปรับนโยบายใหม่ ให้การสนับสนุนเรื่องกีฬาน้อยลง ไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอล “เมืองทอง ยูไนเต็ด” เท่านั้น
แต่ “แบดมินตัน” รายการใหญ่อย่าง “เอสซีจี” ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนด้วย
รวมถึงกีฬาอีกหลายชนิด อย่าง “กอล์ฟ” หลังจากนี้ “เอสซีจี” จะให้การสนับสนุนนักกีฬา เป็นแค่รายบุคคล ดังนั้นการแยกทางกันของ “เอสซีจี” และ “เมืองทอง ยูไนเต็ด” จึงเป็นเรื่องนโยบายและสัญญาที่หมดลงพอดี ส่วน “หุ้น” ที่ตามข่าวเก่าระบุว่า “เอสซีจี” ถือไว้ 30% ก็มีวิธีการเคลียร์กันได้แล้ว ทั้งนี้ “เอสซีจี”
จะยังคงให้การสนับสนุนทีมในบางส่วน แต่ชื่อทีมคงไม่ใช่ “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” อีกต่อไป รวมถึงสนาม “เอสซีจี สเตเดียม” คงต้องเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่ แต่แฟนบอล “กิเลนผยอง” ไม่ต้องวิตกกังวลใจมากไปถึงขั้นที่ว่าสโมสรจะล่มสลาย หรือเปล่า ทางผู้บริหารยืนยันกับ ตารางบอล “แหล่งข่าว” ว่ามีการเจรจาหาผู้สนับสนุน เจ้าใหม่เอาไว้แล้ว ข่าวที่ลือกันมานานตลอดหลายปีว่า “แสนสิริ” จะเข้าเทคโอเวอร์สโมสรก็ถูกปฏิเสธแล้ว ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด หลายคนเชื่อว่าแม้จะเจอหลายปัญหาซัดโหมใส่ แต่ผู้บริหาร “กิเลนผยอง” ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญร่วมพัฒนาฟุตบอลไทยมาเนิ่นนาน ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำสโมสรเองคงไม่ถอดใจเลิกทำทีมแน่นอน
แต่ “เมืองทอง ยูไนเต็ด” ในวันที่ไม่มี “เอสซีจี” นำหน้าชื่ออีกแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป แฟนๆ “กิเลนผยอง” และประชากรฟุตบอลไทยคงต้องคอยติดตามกันไป ทีมระดับ “บิ๊ก” ยังมีสะเทือนย่อมส่งผลกระเพื่อมถึง “ไทยลีก” ทั้งระบบแน่นอน
Comments