เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เชลซี เอาชนะ ลีดส์ แล้วก็กระโดดขึ้นสู่อันดับหนึ่ง ของพรีเมียร์ลีก
ภายใต้การคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไม่มีใครคิดว่าจากนักเตะเก่าที่เพิ่งเคยคุม ดาร์บี้ ในแชมเปี้ยนชิพ จะกลับมาทำให้สิงโตน้ำเงินคราม กลับมายิ่งใหญ่ได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับก็คือทั้งหมดมาจากความทุ่มเทของ โรมัน อบราโมวิช เขาทุ่มเงินลงไปไม่มียั้ง มีเท่าไหร่ก็เทลงไปในทีมจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
ในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่เสมอกับ สเปอร์ส เป็นเกมที่ 1,000 ของ เชลซี พอดิบพอดีนับตั้งแต่ เขาเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อเดือน มิ.ย.2003 แล้วฟุตบอลอังกฤษก็เปลี่ยนโฉมหน้าไปเลย ก่อนหน้านั้น เชลซี เพิ่งจบซีซั่น 2002/03 ด้วยอันดับที่ 4 โดยถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ทำแต้มทิ้งห่าง 16 แต้ม เขาจึงทุ่มเงินเนรมิตให้ เชลซี ผงาดเป็นหนึ่งในสโมสรระดับหัวแถวของยุโรป ดูบอลฟรี มาถึงตอนนี้ก็ 17 ปีแล้ว สิ่งที่เสี่ยหมีได้เห็นคือโทรฟี่ 16 ใบ ซึ่งมากพอที่จะการันตีว่า เขาประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ เสี่ยมาซัมเมอร์ 2003 อบราโมวิช จ่ายไปมากกว่า 100 ล้านปอนด์ แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะทำให้ เชลซี ไปดีให้ได้ โดยการเอา โคล้ด มาเกเลเล่ , เอร์นัน เครสโป , อาเดรียน มูตู , ฮวน เซบาสเตียน เวรอน และ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ เข้ามา ขณะที่ จานฟรังโก้ โซล่า กับ แกรม เลอ โซ ต้องพ้นไป จากสโมสรแต่ กุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ทำผลงานที่ดีกว่าซีซั่นก่อน แต่ก็พลาดเป้าหมายอยู่ดีเนื่องจาก อาร์เซน่อล ชุดไร้พ่ายจบซีซั่นโดยมีคะแนนมากกว่าถึง 11 แต้ม แต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เพิ่งประกาศศักดาพา ปอร์โต้ ซิวแชมป์หูใหญ่ได้ อย่างระบือลือลั่น อิบราโมวิช จึงมองว่าเขาคือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบต่อการพา เชลซี ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ “สเปเชี่ยล วัน” จัดแจงดึงลูกทีมคนสนิทมาร่วมงานกันต่อทันทีทั้ง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ เปาโล แฟร์เรยร่า พร้อมกันนี้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา , อาร์เยน ร็อบเบน , ปีเตอร์ เช็ก , ติอาโก้ , อเล็กซ์ และ มาเตย่า เคซมัน ก็ถูกคว้ามาร่วมทัพเช่นกัน แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก มูรินโญ่ พาทีมซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่โดยมีผลงานปราชัยแค่นัดเดียวตลอดทั้งซีซั่น โกยแต้มทิ้งห่าง อาร์เซน่อล 12 แต้ม มันเป็นแชมป์ลีกใบแรกของ สิงห์บลูส์ ในรอบ 50 ปีเช่นกัน อีกทั้งพวกเขาเสียประตูตลอดทั้งซีซั่นแค่ 15 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของเกมรับ พร้อมกันนี้ มูรินโญ่ ยังคว้าแชมป์ ลีกคัพ ในปีแรกของเขาที่ลีกอังกฤษเช่นกันอันเป็นการประกาศก้องว่า สิงห์บลูส์ ไม่ได้เป็นรองทีมไหนในลอนดอนอีกต่อไปแล้ว ออกจาก วิลล่า พาร์ค ก่อนจบเกม
พอเข้าสู่ปีที่สี่ของ มูรินโญ่ เขาก็ไม่ได้เป็นคนโปรดของเสี่ยหมีอีกต่อไป
ความสัมพันธ์ของทั้งสองส่อแววอวสานหลังจบซีซั่น 2006/07 ซึ่ง เชลซี เสียแชมป์พรีเมียร์ลีกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แถมตกรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยฝีเท้าของ ลิเวอร์พูล ขาเก้าอี้ของกุนซือโปรตุกีสหักลงตั้งแต่เกมที่ห้าของซีซั่น 2007/08 เนื่องจากทีมออกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 2-0 อบราโมวิช ทนดูไม่ได้ และผละไปจาก วิลล่า พาร์ค ก่อนเกมจบ
จากนั้นอีกสองสัปดาห์ มูรินโญ่ ก็ถูกปลดหลังไม่อาจพาทีมสยบ โรเซนบอร์ก ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก อกหักที่ มอสโก หลังได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย อบราโมวิช ก็พุ่งความสนใจต่อไปที่การคว้าโทรฟี่ แชมเปี้ยนส์ลีก เชลซี ไม่เคยได้โทรฟี่หูใหญ่มาก่อน และหลังจากปลด มูรินโญ่ เสี่ยหมี ก็มอบงานชิ้นสำคัญให้กับ อัฟราม แกรนท์ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ทีม แกรนท์ ลบข้อสงสัยได้ด้วยการพา เชลซี ผ่านเข้าถึงรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกที่มอสโก ซึ่งพวกเขาต้องเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่ เชลซี จะพ่ายการดวลลูกโทษตัดสิน ซึ่งหมายความว่าผีแดงได้ทำลายความฝันของเสี่ยหมีบนแผ่นดินเกิดอย่างเจ็บแสบ ดับเบิ้ลแชมป์ของ อันเช่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาครองความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีกได้อีกแล้วโดยซิวแชมป์ลีกได้ 3 ครั้ง ZoneDooBall ระหว่างปี 2007-2009 หลังล้มเหลวกับการแต่งตั้ง หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งได้แค่หกเดือน อบราโมวิช ก็แก้ลำด้วยการจิ้มไปที่กุนซือตัวพ่ออีกรายอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ แม้จะไม่อาจพาทีมเมืองกรุง สานฝันในถ้วยยุโรปได้ แต่ อันเชล็อตติ ก็พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ (ฟุตบอลลีก และฟุตบอลถ้วย) ได้ในซีซั่นแรกของเขา พร้อมทั้งทำลายสถิติ พรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงประตูได้มากที่สุด 103 ลูก ตอร์เรส ทำลายสถิติ เดือน ม.ค.2011 อันเชล็อตติ ยังไปไม่สุด อบราโมวิช จึงตัดสินใจทุ่มเงินก้อนโต 76.5 ล้านปอนด์ ดึง ดาวิด ลุยซ์ กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส มาเสริมศักยภาพ หากแต่เป็นธรรมดาที่ ตอร์เรส จะตกเป็นข่าวที่ใหญ่กว่า หลังจากดาวยิงสแปนิชย้ายมาด้วยการทำลายสถิติค่าตัวของลีกอิงลิช 50 ล้านปอนด์โดยย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ แน่นอนว่า อบราโมวิช ตั้งความหวังเอาไว้สูงลิบลิ่ว แต่มันกลับกลายเป็นคนละเรื่องเนื่องจากปีศาจแดงได้แชมป์ลีก ขณะที่ ตอร์เรส ล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด ไม่อาจสานผลงานอย่างต่อเนื่อง เหมือนตอนที่ย้ายมาสร้างชื่อกับ หงส์แดง ในปี 2007 แล้วถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกก็มา สุดท้ายแล้ว เสี่ยหมีต้องรอนานถึง 9 ปีก่อน จะได้สัมผัสกับถ้วยนี้ด้วยการพิชิต บาเยิร์น มิวนิค ลงได้ในนัดชิงดำปี 2012 โดย เชลซี เป็นฝ่ายมีชัยในการดวลความแม่นเป้า 5-4 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ซัดประตูตัดสินชัยชนะ ปฏิเสธโอกาสที่เสือใต้จะได้ฉลองใหญ่ในสนามของตัวเอง มูคัมแบ็ค ช่วงซัมเมอร์ปี 2013 อบราโมวิช ทำเซอร์ไพรส์อีกหนด้วยการตัดสินใจแต่งตั้ง มูรินโญ่ กลับมากุมบังเหียน เชลซี เป็นคำรบสอง 6 ปี หลังอำลา สแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาไปสร้างผลงานยิ่งใหญ่พา อินเตอร์ มิลาน คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ก่อนได้โทรฟี่ ลา ลีกา กับ เรอัล มาดริด แต่เขาไม่อาจพา สิงห์บลูส์ กลับไปครองแชมป์ลีกอิงลิชได้ ในซีซั่นแรกของเขา อย่างไรก็ดี สถานการณ์เปลี่ยนไป เมื่อมี ดีเอโก้ คอสต้า กับ เชส ฟาเบรกาส ย้ายมาร่วมทีม และมันส่งผลให้ เชลซี กลับไปครองความเป็นเจ้าของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในปีต่อมา มาถึงตอนนี้
เชลซี เลือกใช้กุนซือที่ประสบการณ์น้อยกว่าทุกคนที่ อบราโมวิช เคยใช้งานมา แต่งานที่ออกมากลับดีแม้ว่าจะมีคู่แข่งระดับเขี้ยวเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้าไม่ได้แรงหนุนจากเสี่ยหมี เชลซี ก็คงขึ้นมาดีถึงขนาดนี้ไม่ได้
Comments