top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนกันดั้ม วิง

“ฟุตบอลไทยลีก” คัมแบ็ก แบบนันสตอป...ทีมไหนทีมเต็ง

แฟนบอลไทยที่เงียบเหงามาตลอด 1 เดือนเต็มจากพิษ “โควิด-19”

ระลอกใหม่เตรียมกลับมาซูซ่ากันอีกครั้งเมื่อฟุตบอลไทยกำลังจะกลับมาหวดแข้งกันแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.เป็นไปต้นฟุตบอลไทยทุกระดับไม่ว่าจะเป็น “ไทยลีก 1” “ไทยลีก 2” และ “ไทยลีก 3” รวมถึง “เอฟเอคัพ” จะคัมแบ็กมาเตะกันแบบ “นันสตอป” ตลอด 2 เดือนเต็ม ฟุตบอลไทยกลับมาครั้งนี้ต้องบอกว่า “นันสตอป” จริงๆ


เพราะ 1 สัปดาห์ไม่มีเตะแค่ 2 วันคือวันจันทร์กับวันศุกร์ “ไทยลีก 1” เตะสัปดาห์ละ 5 วันในวันเสาร์-อาทิตย์ และนัดกลางสัปดาห์ที่แบ่งเตะ 3 วัน อังคาร พุธ พฤหัสบดี รวมเบ็ดเสร็จทุกทีมต้องเตะ 14 นัดในรอบ 2 เดือนให้จบฤดูกาลวันที่ 28 มี.ค. แฟนๆ ดูบอลสด “ไทยลีก 1” ดูกันตาแฉะเลยทีเดียว ขณะที่ “ไทยลีก 2” มีเกมกลางสัปดาห์ ในวันพุธแทรกเข้ามาตลอดเช่นกัน รวมทั้งหมด 6 สัปดาห์ เบ็ดเสร็จต้องเตะ 16 นัดในรอบ 2 เดือนให้จบฤดูกาลปกติวันที่ 31 มี.ค. แฟนๆ “ไทยลีก 2” ดูกันตาแฉะไม่แพ้ “ไทยลีก 1” และอาจต้องลุ้นยาวกว่า เพราะหากทีมติดอันดับ 3-6 ยังต้องมาเตะ “เพลย์ออฟ” เพื่อเลื่อนชั้นอีก กว่าจะจบฤดูกาลวันที่ 24 เม.ย.นู้นเลย ด้าน “ไทยลีก 3” เหลือรอบ 12 ทีมสุดท้ายหรือ “เนชั่นแชมเปียนชิพ” เลยเตะไม่เยอะแค่ 1 เดือนจบ จากนั้นไปลุ้น “นัดชิงชนะเลิศ” กับ “ชิงอันดับ 3” ในวันที่ 13-14 มี.ค.และ 20-21 มี.ค. แฟนๆ “ไทยลีก 3” ดูกันแบบสบายๆ เพราะเตะแค่เสาร-อาทิตย์ไม่มีนัดกลางสัปดาห์มาคั่น อย่างไรก็ดีด้วยโปรแกรมที่ออกมาแบบหฤโหดเช่นนี้ ก็น่าสนใจว่าสถานการณ์ลุ้นแชมป์ในแต่ละลีกจะเป็นอย่างไร เพราะปัจจัยสำคัญคือการเตะแบบ “นันสตอป” นี่ละ สโมสรที่ “ขนาดทีมใหญ่” ทรัพยากรนักเตะเยอะจะได้เปรียบตรงนี้ เพราะการเตะแบบสัปดาห์ละ 2 นัดคงต้องวางระบบการหมุนเวียนนักเตะให้ดี ดังนั้นเมื่อมาดูบนตารางคะแนนตอนนี้แล้ว “ไทยลีก 1” ตรงหัวตารางคะแนนโอกาสพลิกผันอาจไม่เยอะ


ดูบอลสด

“บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ทีม “จ่าฝูง” ถือว่ามีผู้เล่นที่ทดแทนกันได้ระดับหนึ่ง

ประเด็นสำคัญคือนักเตะที่มาใหม่อย่าง “ดิโอโก หลุยส์ ซานโต” และ “ธีรศิลป์ แดงดา” สามารถตอบโจทย์ได้เลยทันที แถมยังมีเวลาซ้อม กับทีมมากกว่าเดิมด้วย ดังนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่จะประมาททีม “รองจ่าฝูง” อย่าง “การท่าเรือ” ก็ไม่ได้ เพราะทรัพยากรนักเตะเยอะมาก เรียกว่าแทบล้นทีม ดังนั้นปัญหาคิวเตะเยอะไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัว ของทีมจากคลองเตยสักเท่าไร


ดูแล้วการลุ้นแชมป์คงหนีไม่พ้น “บีจีพียู” กับ “สิงห์เจ้าท่า” นี่ละ เพราะแต้มห่างจากทีมอันดับ 3 เยอะ และทีมอื่นๆไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักยกเว้น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ทีม “ปราสาทสายฟ้า” เปลี่ยนต่างชาติแบบยกแผง หากเป็น ​เว็บสตรีมบอล “ของจริง” ทั้งหมดอาจสร้างความประหลาดใจได้ แต่ทั้งนี้ความห่างของ “ตัวจริง” และ “ตัวสำรอง” มีเยอะ เตะถี่ๆจึงอาจมีปัญหา ด้าน “ไทยลีก 2” ไม่น่ามีปัญหาสำหรับ “หนองบัว พิชญ” ทีมนำจ่าฝูงที่โกยแต้มนำห่างหลายช่วงตัว หากไม่สะดุดหัวทิ่มจริงๆ โอกาสสร้างประวัติศาสตร์เลื่อนชั้นมีสูงมาก แต่ที่เหลือลุ้นกันสนุกในการลุ้นอันดับ 2 ที่จะได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติ โดยเฉพาะ “ขอนแก่น ยูไนเต็ด” กับ “เชียงใหม่ ยูไนเต็ด” ที่สูสีมาก ต้องดูว่าใครจะรักษาสภาพได้ดีกว่ากัน ส่วนการลุ้นอันดับ 3-6 ไปเพลย์ออฟยิ่งน่าสนใจ “แพร่ ยูไนเด็ด” “เชียงใหม่” “นครปฐม ยูไนเต็ด” “อยุธยา ยูไนเต็ด” มีโอกาสพอๆกันหมด รวมถึง “ชัยนาท ยูไนเต็ด” ที่เริ่มขยับมาแล้ว สำหรับ “ไทยลีก 3” วัดกันแค่ 5 นัดในรอบแบ่งกลุ่มอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น


แต่ทีมเต็งหนีไม่พ้น “เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” “อุดร ยูไนเต็ด” และ “ราชประชา” ที่ว่ากันว่าน่าจะมีโอกาสเลื่อนชั้นสูง เอาเป็นว่าทุกลีกน่าสนใจไม่แพ้กัน แฟนบอลไทยตามลุ้นตามเชียร์กันได้เลยแบบ “นันสตอป” เรียกว่าเตะแบบไม่มีพักกันเลยทีเดียว​

ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page