ฟุตบอลไทยปี 2020...ทีมชาติเหงา ลีกวุ่นวาย

ปี 2020 กำลังจะพ้นไป...ซะที ตลอดรอบปีที่ผ่านมาฟุตบอลไทยถือว่ามีหลากหลายรสชาติ

แต่ดูแล้วหนักไปทางน่าปวดหัวและละเหี่ยใจมากกว่าปีใดๆ วงการฟุตบอลไทยก็เหมือนแวดวงอื่นๆที่โดนผลกระทบจาก “โควิด-19” ทำให้ปั่นป่วนไปหมด ขวบปีที่ผ่านมาเหงาที่สุดคือ “ทีมชาติไทย” เพราะมีโปรแกรมเตะแค่ต้นปี หลังจากนั้นเงียบสนิท ไม่มีแมตช์นานาชาติอีกเลย นักเตะ “ช้างศึก” เปิดหัวต้นปี 2020

แบบได้กระแสไม่น้อยในรายการ “ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2020” ที่ประเทศไทยรับหน้าที่ “เจ้าภาพ” “อากีระ นิชิโนะ” กุนซือชาวญี่ปุ่นที่ล้มเหลวกับทีม “ยู-23” ในภารกิจ “ซีเกมส์ 2019” ที่ฟิลิปปินส์ เพราะตกรอบแรกไม่เป็นท่าได้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งในทัวนาเมนต์นี้ ปรากฏว่านักเตะทีมชาติไทยรุ่น “ยู-23” ทำผลงานคนละเรื่อง ระดับอาเซียนตกรอบแรก แต่ระดับเอเชียสามารถตีตั๋วเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายจนเกือบได้ลุ้นตั๋ว ​ดูบอลออนไลน์ “โอลิมปิกเกมส์” ทีมชาติไทยประเดิมด้วยการถล่ม “บาห์เรน” 5-0 แบบหักปากกาเซียนทั้งแผ่นดิน ต่อด้วย แพ้ “ออสเตรเลีย” 1-2 ชนิดเล่นได้ใจแฟนบอล แล้วปิดท้ายเสมอ “อิรัก” 1-1 ตีตั๋วเข้ารอบต่อไป เกมรอบ 8 ทีสุดท้ายนักเตะไทยสู้กับ “ซาอุดิอาระเบีย” อย่างสนุกก่อนพ่ายไป 0-1 จากการเสียจุดโทษ ยุติเส้นทางแค่รอบนี้แต่ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลทั้งประเทศ นั่นคือทัวนาเมนต์เดียวที่ทีมชาติไทยได้ลุยในปี 2020 เพราะหลังจากนั้น “โควิด-19” ป่วนโลกจนเกมการแข่งขันถูกเลื่อนไปทั้งหมด “ฟุตบอลโลก 2022” ที่ทีมชาติไทยเหลือโปรแกรมเตะกับ “อินโดนีเชีย” “สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์” และ “มาเลเซีย” เพื่อตัดสินว่าใครจะได้ไปต่อในรอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชียถูกยกเลิกทั้งหมด “นิชิโนะ” ไม่มีงานในช่วง “โควิด-19” จนต้องกลับไปญี่ปุ่น ก่อนเหตุการณ์เริ่มซาๆลงแล้วจึงกลับมาใหม่เพื่อเป้าหมายเตรียมทีมลุย “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” ช่วงปลายปี แต่สุดท้ายทัวนาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียนโดนสั่งเลื่อนไปเตะปี 2021 อีก รวมถึงแมตช์อุ่นเครื่องใน “ฟีฟ่าเดย์” ถูกยกเลิกไปหมดด้วย เนื่องจากไม่สามารถหาทีมต่างประเทศเข้ามาเตะได้ ที่สุดแล้ว “นิชิโนะ” มีโอกาสเพียงแค่คุมทีมลงเตะเกม “ฟีฟ่าเดย์” กับทีมในประเทศอย่าง “นครปฐม ยูไนเต็ด” และ “รวมดาราไทยลีก” เท่านั้นเพื่อให้ทีมชาติไทยได้เคลื่อนไหวบ้าง ปี 2020 จึงถือว่าฟุตบอลระดับทีมชาติไทยเงียบเหงาจริงๆ

ส่วน “ไทยลีก” นี่คือปีที่สุดวุ่นวาย เกมเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์

แต่เตะได้เพียงแค่ 4 นัดต้องเจอ “โควิด-19” ป่วน “สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” และ “ไทยลีก” พยายามแก้ปัญหาด้วย การเลื่อนเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญคือการตัดสินใจเลื่อนยาวกว่า 6 เดือนเพื่อ “เปลี่ยนปฏิทินฟุตบอลไทย” จากที่ “ไทยลีก” เตะให้จบฤดูกาลภายในปีเดียว เหมือนกับปฏิทินลูกหนังของหลายชาติในเอเชียและปฎิทินของ “เอเอฟซี”

กลายเป็นเปลี่ยนใหม่ให้ “เตะข้ามปี” อิงตามปฏิทินยุโรป หลายเสียงเห็นด้วยในตอนแรกเพราะเชื่อว่าจะเป็นการหนีฝนและทำให้ได้เตะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมที่อากาศดี แต่เอาไปเอามาดูเหมือนจะมีข้อเสียมากกว่าดี กลายเป็นทีมที่เจอ “โควิด-19” ป่วนจนสะบักสะบอมอยู่แล้วต้องรับภาระจากที่เตะ 8-9 เดือนจบ กลายเป็นฤดูกาลนี้ล่อไป 14 เดือน ที่สำคัญ ​เว็บดูบอล “ไทยลีก” ดันไม่คุยกับผู้สนับสนุนให้เคลียร์ก่อนในการโยกไปเตะข้ามปีทำให้สปอนเซอร์หลายเจ้าขอยึดสัญญาเดิมไม่ยอมขยายสัญญาไปตามปฏิทินใหม่ หลักๆคือ “ทรูวิชั่นส์” ที่ขอยึดสัญญาเดิมยุติการ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จากที่สโมสรเคยได้รับค่าสนับสนุนปีละ 20 ล้านบาทจึงไม่รู้ว่าปีนี้จะได้กี่สตางค์ “ออมสิน” ที่เคยสนับสนุนในลีกล่าง “ไทยลีก 3-4” ก็ถอยด้วย รวมถึง “โตโยต้า” ที่ไม่เอาถ้วย “โตโยต้า ลีกคัพ” ไว้ คงเหลือเพียงแค่ “โตโยต้า ไทยลีก” รายการเดียว นี่คือการทำงานและการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ “สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” และ “ไทยลีก” เพราะไม่ได้ให้ข้อมูลสโมสรแบบครบทุกด้านในตอนให้ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนปฏิทินใหม่หรือไม่ สโมสรส่วนใหญ่จึงเจอสารพัดปัญหารุมซัด ทั้งเงินทำทีม สัญญานักเตะ สัญญาสปอนเซอร์ คงมีเพียงไม่กี่สโมสรที่มีเงินหนาจึงได้เปลี่ยนนักเตะสมใจใน “ตลาดนักเตะ” ที่เปิดถึง 3 รอบในปีนี้ แม้ภาพรวม “ไทยลีก” จะออกแนววุ่นวายหลายอย่าง แต่ยังดีที่อรรถรสของการแข่งขันถือว่าสนุกสนานเข้มข้มเพราะหลายทีมไม่ถอดใจ พยายามทำทีมสู้กันเต็มที่ ลีกล่างอย่าง “ไทยลีก 4” ถูกยุบรวม “ไทยลีก 3” เหลือเพียงแค่ลีกเดียวก็มีบ้างบางทีมที่ถอดใจตัดสินใจ

“พักทีม” ไม่แข่งขันต่อ ตอนแรกลุ้นกันหนักเลยว่าจะเหลือแค่กี่ทีมด้วยซ้ำ ปี 2020 จึงถือว่า “ไทยลีก” วุ่นวายไม่น้อย สรุปแล้ววงการฟุตบอลไทยคงเหมือนกับแวดวงอื่นๆนั่นละที่ขอให้เรื่องเลวร้ายทั้งหลายจบอยู่ที่ปี 2020 เท่านั้นพอ​