ปี 2020 ปีชง!...ของ "หงส์แดง" สโมสรลิเวอร์พูล

2020 ดูจะเป็นปีที่ไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับ ลิเวอร์พูล สักเท่าไหร่

ต้นปีเกิดวิกฤติ "โควิด-19" จนทำให้พวกเขา เกือบจะต้องชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของสโมสรไป โชคยังดีที่ เจ้าไวรัสร้ายเฟสแรก ลดระดับความรุนแรงลงไปในช่วงกลางปี ทำให้พวกเขากลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังจากที่เฝ้ารอกันมานานนับ 30ปี แต่หลังจากที่ซีซั่นใหม่ ออกสตาร์ทไปได้ไม่เท่าไหร่

ก็ดูเหมือนว่าเคราะห์ร้าย จะกลับมาตามรังควานลิเวอร์พูลฟกันอีกรอบ เริ่มจากปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก ที่มาเล่นงานพวกเขาหนักที่สุดในรอบกว่าสองปี! "เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์" เซ็นเตอร์แบ็คตัวหลัก ที่ทำสถิติลงสนามในพรีเมียร์ลีก ได้ครบทุกนัดในสองซีซั่นที่ผ่านมา เจ็บหนักที่เข่าในศึก เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ จนถึงขั้นต้องขึ้นเขียง และปิดเทอมยาวไปเป็นคนแรก ตามมาด้วย ตัวตายตัวแทนอย่าง ​ดูบอลออนไลน์ "ฟาบินโญ่" ที่ยืนเซ็นเตอร์แบ็คจำเป็นแทนที่ได้เพียงไม่กี่นัด ก็ต้องมาโดนอาการบาดเจ็บถามหาไปอีกคน และสดๆร้อนๆ กับ โรคเดี้ยงของ "โจ โกเมซ" ซึ่งเจ็บที่เดียวกับลูกพี่ ฟาน ไดจ์ ในระหว่างไปเข้าแคมป์กับทีมชาติอังกฤษ ทั้งๆที่ไม่มีใครไปแตะต้องตัวเลย! และผลลัพธ์ก็ไปซ้ำเติมชะตากรรมของหงส์แดงเข้าไปอีก เมื่อต้องเสีย เซ็นเตอร์แบ็คแกนหลักไปอีกราย ทำให้เหลือคนที่มีประสบการณ์อย่าง โฌแอล มาตีป ไว้ใช้งานแค่รายเดียวแล้ว! เท่านั้น ยังไม่พอ โควิด ในเฟสสอง ก็ตามจองล้างจองผลาญ ทีมของ"เจอร์เก้น คล็อปป์" เข้าให้อีกในช่วงปลายปี 2020 นี้! "โม ซาลาห์" ดาวยิงตัวเก่งกลายเป็นแข้งรายล่าสุดของทีม ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของเจ้าไวรัสร้าย

นักเตะอียิปต์ ถูกตรวจพบโควิดหลังกลับไปเก็บตัวกับทีมชาติ

ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับมา จากการไปร่วมงานแต่งงานของพี่ชายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 10 วันตามกฏ ส่งผลให้หงส์แดง จะหมดสิทธิใช้งาน ซาลาห์ ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดสำคัญที่จะเปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "จ่าฝูง" เลสเตอร์ซิตี้ ในวันอาทิตย์หน้าไปอย่างน่าเสียดาย ถือเป็นอีกครั้งที่ เจ้าไวรัสตัวอันตราย

สร้างปัญหาให้กับแชมป์พรีเมียร์ลีก เพราะ ซาลาห์ กลายเป็นแข้งรายที่4 ของหงส์แดงแล้ว ที่ติดโควิดในซีซั่นนี้ ต่อจาก คอสตาส ซิมิคาส แบ็กซ้ายคนใหม่ชาวกรีซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางหน้าใหม่ชาวสแปนิช และ ซาดิโอ มาเน่ ปีกชาวเซเนกัลตัวเก่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อ การลงทำศึกพรีเมียร์ลีกของทีมอย่างมาก จึงน่าสนใจว่า คล็อปป์ จะจัดแจงทีมของเขาอย่างไร ในช่วงที่เจอกับปีชงอย่างนี้? โดยเฉพาะเกมถัดไป ที่จะเจอศึกใหญ่กับ ​ตารางบอล จิ้งจอกสยาม ทีมจ่าฝูง! ผู้รักษาประตู ต้องบอกว่าอย่างน้อย กุนซือหงส์แดงก็ยังอุ่นใจ ที่มี "อลีสซง เบ็คเกอร์" ลงเฝ้าเสาอยู่ ไม่ใช่มือสองที่ออกทะเลเป็นประจำอย่าง "อาเดรียน" แนวรับ แบ็กขวาที่จะมาแทน เทรนด์ สำหรับเกมใหญ่อย่างนี้ รุ่นพี่อย่าง "เจมส์ มิลเนอร์" น่าจะดูเป็นตัวเลือกที่อุ่นใจกว่า เจ้าหนู "เนโก วิลเลี่ยมส์" ส่วนคู่ เซนเตอร์แบ็ก โฌแอล มาติป หนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ น่าจะจับคู่กับ ฟาบินโญ่ ถ้าเจ้าตัวหายเจ็บทันหลังโปรแกรมทีมชาติรอบนี้ อย่างที่ได้คำนวณกันเอาไว้ตอนแรก ส่วน "แอนดี้ โรเบิร์ตสัน" แบ็คซ้าย ก็ต้องภาวนาขอให้อย่าเป็นอะไรไปอีกคน กองกลาง แผงมิดฟิลด์ดูจะสร้างความปวดหัวให้ คล็อปป์ น้อยที่สุดในตอนนี้ เพราะยังพอจะหมุนวน กันไปได้ในระบบ 3 คน ซึ่งถ้า ติอาโก้ มาตามนัดหลังจบเกมระดับชาติ ก็จะได้กลับมาประสานงานกับ" จอร์แดน เฮนเดอร์สัน" และ "จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม" กองหน้า ถ้ามองกันในแง่ดี การขาด ซาลาห์ อาจจะทำให้คล็อปป์ ไม่ต้องลังเลและจับตัวรุกยัดลงไปพร้อมกันถึง 4 คนเหมือนในบิ๊กแม็ตช์เกมที่แล้ว กับ แมนฯซิตี้ ที่ทำให้ทีมดูเสียสมดุลไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะถ้าดูจากฟอร์มอันร้อนแรงของ "ดิโอโก้ โชต้า" ในเวลานี้ คงจะทำให้การประสานงานกับ มาเน่ และ "โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่" ที่เพิ่งไปทำประตูเรียกความมั่นใจ ในการลงเล่นให้กับบราซิล

ไม่ลดประสิทธิภาพลงไปมากนัก คาดว่า ลิเวอร์พูล น่าจะพอประคองตัวรอด จนผ่านปีชงไปได้ แต่ถ้าอยากจะคว้าแชมป์เพิ่มในซีซั่นนี้ พวกเขาต้องเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ในช่วงเปิดตลาดนักเตะรอบใหม่ เพียงสถานเดียว​