ที่ว่างใน แชมเปี้ยนส์ลีกนั้น ยังไม่ไกลเกินเอื้อม

ชัยชนะเหนือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทำให้ ลิเวอร์พูล หยุดสถิติแพ้ติดต่อกัน 4 นัดได้สำเร็จ

และตอนนี้พวกเขาก็ห่างจากโซนท๊อปโฟร์ที่จะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกแค่ 2 คะแนนเท่านั้น ที่จริงสกอร์น่าจะมากกว่า 2-0 ด้วยซ้ำ หากว่าไม่ได้การเซฟเป็นลิงของ อารอน แรมส์เดล จนยันสกอร์ 0-0 เอาไว้ได้ในครึ่งแรก แล้วเมื่อกองหน้าทั้งหลายกลายเป็นใบ้ เคอร์คิส โจนส์ ที่เป็นความหวังใหม่ของหงส์แดงในช่วงที่ทีมมีแต่คนเจ็บ

ก็ยิงให้ทีมขึ้นนำ ก่อนที่ โรแบร์โต้ เฟร์มิโน่ จะยิงแฉลบ คีน ไบรอัน เปลี่ยนทางเข้าประตูไป นั่นถูกบันทึกว่าเป็นประตูที่ 7,000 ของ ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ในลีกสูงสุดของอังกฤษ ​ดูบอลฟรี หงส์แดงเป็นทีมที่สองในประวัติศาสตร์อังกฤษที่ทำประตูได้ถึงหลัก 7,000 ประตู โดยที่ทีมแรกก็คือ เอฟเวอร์ตัน คู่แข่งร่วมเมืองที่ทำสถิติไว้สูงถึง 7,108 ประตู ซึ่งก็คงไม่ง่ายที่ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะแซง เนื่องจากทีมท๊อฟฟี่สีน้ำเงินในยุคนี้ก็กลับมาแรง และยิงได้เรื่อยๆ เช่นกัน “คนส่วนใหญ่มองว่าเราหลุดจากการลุ้นไปฟุตบอลยุโรปแล้ว ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ด้วยปัญหามากมายที่เราเจอในตอนนี้ เรากลับยังคงอยู่ในเส้นทางที่ตื่นเต้น” คล็อปป์ กล่าว “นี่คือสิ่งที่เราได้แสดงให้เห็นว่าเรายังคงอยู่ในเส้นทาง วันพฤหัสนี้เราจะพบกับ เชลซี ซึ่งเราจะได้แสดงให้เห็นแบบนี้อีกครั้ง เราต้องเอาชนะในเกม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปแชมเปี้ยนส์ลีกหากไม่ได้ผลการแข่งขันที่ดี” ถึงตอนนี้ คล็อปป์ ยอมรับว่าผลการแข่งขันเหนือกว่าฟอร์มการเล่น เพราะต่อให้ฟอร์มดีแค่ไหน แต่ถ้าผลการแข่งขันไม่เป็นใจ ความหวังของพวกเขาก็พัง ไม่น่าเชื่อว่าเพียง 8 เดือนให้หลังจากที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี พวกเขากลับต้องมากระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่อให้ติดท็อปโฟร์ พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้เฉพาะในปี 2021 นี้มากเท่ากับที่เจอมาใน 100 เกมลีกก่อนหน้านี้ การพบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมบ๊วยของตาราง จึงเหมือนเป็นการเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาในเวลาที่พอเหมาะจริงๆ แต่ก็นั่นแหละครับ ลิเวอร์พูล ก็ต้องท้อไปเหมือนกันเมื่อยิงเท่าไหร่ก็ไปติดมือ

แรมส์เดล ตลอดในครึ่งแรก จาก 11 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุด

ไม่น่าเชื่อว่าหงส์แดงจะยิงในครึ่งแรกได้ แค่ประตูเดียว ปัญหาใหญ่สุดของ ลิเวอร์พูล คืออาการบาดเจ็บของนักเตะในตำแหน่งกองหลัง โดยเฉพาะเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่กลายเป็นตำแหน่งอาถรรพ์ที่ใครมาเล่นก็ต้องเดี้ยง คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนคู่เซ็นเตอร์เป็นว่าเล่น จนถึงเกมล่าสุด โอซาน คาบัค และแน็ต ฟิลลิปส์ คือเซ็นเตอร์คู่ที่ 14 ในฤดูกาลนี้

ส่วนประตูก็ต้องใช้ อาเดรียน แทน อลิสซง ที่พ่อเพิ่งเสียไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่พวกเขาก็ดีพอที่จะรับมือ เชฟฯ ยูไนเต็ด ความพ่ายแพ้ของเจ้าถิ่นทำให้พวกเขาเป็นทีมแรก ที่แพ้อย่างน้อย 21 จาก 26 นัดแรก ในฟุตบอลลีกอังกฤษ ทีมที่เคยมีสถิติน่าอายก่อนหน้านี้ ​บอลถ่ายทอดสด ก็คือ นิวปอร์ต เคาน์ตี้ ในดิวิชั่น 4 เมื่อฤดูกาล 1970-71 พรีเมียร์ลีกส่งชื่อได้ 25 คน แต่ ลิเวอร์พูล มีนักเตะ 12 คนที่อายุ 28 ปีขึ้นไป ซึ่งในจำนวนนั้นมี 9 คนที่เป็นตัวหลักของทีม นี่คือสิ่งที่ใครๆ มองว่าสมควรแก่เวลาที่ คล็อปป์ จะต้องยกเครื่อง “เครื่องจักรสีแดง” แต่กุนซือเยอรมันยังยืนยันว่าเท่าที่มีอยู่นี่ก็ดีพอ ปัญหาอยู่ที่นักเตะที่ดีที่สุดเหล่านี้แทบไม่ได้เล่นด้วยซ้ำ เนื่องจากแต่ละคนผลัดกันเข้าๆ ออกๆ ห้องพยาบาลเป็นว่าเล่น บางคนก็เข้าไปแล้วยังไม่ออกมาเลยก็มี ด้วยสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการซื้อมาเสริม คล็อปป์ ต้องค่อยๆ ดันเอาเด็กที่มีแววขึ้นมาขัดเกลา และแล้วก็ได้ เคอร์ติส โจนส์ ขึ้นมายืนเป็นหลักได้อย่างสง่างาม ด้วยอายุเพียง 20 ปีกับ 29 วัน โจนส์ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้ ลิเวอร์พูลได้ ในพรีเมียร์ลีกนัดเยือน นับตั้งแต่ที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำได้ในเกมเยือน เบิร์นลี่ย์

เมื่อเดือนธันวาคม 2014 ขณะที่อายุ 20 ปี 18 วัน และที่ คล็อปป์ คาดหวังไว้ก็คือ โจนส์ จะไม่ย้ายพรรคเหมือน สเตอร์ลิ่ง ที่ขวนขวายออกไปหาความสำเร็จ เพราะ ลิเวอร์พูล ยุคนี้ก็มียีนส์แห่งความสำเร็จอยู่ในตัวแล้วเช่นกัน​