ฟุตบอล “ไทยลีก” เข้าสู่การแข่งขันแบบ “นันสตอป” ไม่ให้พักหายใจหายคอกันเลย
แต่ละสัปดาห์มีแค่วันจันทร์กับวันศุกร์ที่ไม่มีเตะ ผลการแข่งขันล่าสุดเมื่อวันอังคารและโปรแกรมนัดต่อไปที่ต้องดวลแข้งกันในแมตช์เดย์ที่ 19-20 ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่งกับสถานการณ์บนหัวตารางคะแนน “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ทีมนำจ่าฝูงยังแรงไม่หยุดชนะติดต่อกันเป็นนัดที่ 9 พร้อมรักษาสถิติ “ไร้พ่าย” ในฤดูกาลนี้ไว้ได้ต่อไป
ขณะที่ทีมตาม “การท่าเรือ” รองจ่าฝูงเล่นในบ้าน พ่าย “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ที่เร่งเครื่องมาอยู่อันดับ 3 ทำให้ช่องว่างระหว่างอันดับ 2 กับ อันดับ 1 ขยายห่างไปเป็น 10 แต้ม อย่างไรก็ดีโอกาสที่แต้มจะพลิกผันยังมีตลอดเวลา เพราะคิวเตะตลอดสัปดาห์นี้ ดูบอลสด ยันสัปดาห์หน้าทีมอันดับ 1-3 ต้องเจอกันเองทั้งหมด “สิงห์เจ้าท่า” เจอ “ปราสาทสายสายฟ้า” ไปแล้ว เสาร์นี้เป็นคิวของ “ปราสาทสายฟ้า” ที่ต้องเปิดบ้านเจอ “บีจีพียู” แล้ววันพุธหน้า “บีจีพียู” กลับไปเล่นในรังดวล “สิงห์เจ้าท่า” หลังจบเกมพุธหน้าอาจรู้แล้ว ว่าสถานการณ์บนหัวตารางคะแนนจะเหลืออะไรให้ได้ลุ้นกันบ้าง ถึงตรงนี้หลายคนยังฟันธงว่า “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ไม่น่าแหกโค้งพลาดแชมป์ เพราะทีมฟอร์มมาแรงดีแบบไม่มีตกจริงๆ การมาของคู่กองหน้าตัวใหม่ “ธีรศิลป์ แดงดา” กับ “ดิโอโก หลุยส์ ซานโต” ก็เปิดตัวได้สวย นัดแรกที่ “ไทยลีก”
กลับจากมาหยุด “โควิด-19” ประสานงานกับทำประตูได้ทันที “มุ้ย”
ยิงตั้งแต่นัดแรกที่คัมแบ็ก “ไทยลีก” ขณะที่ “ดิโอโก” นับ 1 ประตูแรกกับต้นสังกัดใหม่ได้แล้ว ในเกมล่าสุดที่เพิ่งผ่านไป หลายคนจึงถามกันเล่นๆว่า “ดูโอ” คู่นี้จะผลิตสกอร์ให้ “บีจีพียู” กี่ประตูในฤดูกาลนี้ ตรงนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะทั้งสองคนถือเป็นกองหน้าระดับ “ตำนาน” ของ “ไทยลีก” ที่ยิงเกิน 100 ประตู
บนเวทีลีกสูงสุดของไทย แล้วทั้งคู่ “มุ้ย” คือตำแหน่งสมัยเล่นกับ “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” ด้วยการจารึกชื่อเป็นกองหน้าชาวไทยที่ยิงประตูใน “ไทยลีก” ได้มากที่สุดเป็นสถิติตลอดกาลตอนนี้ที่ “117 ประตู” ขณะที่ “ดิโอโก” โหดสุดๆสมัยอยู่ เว็บสตรีมบอล “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ทำสถิติยิง 10 นัดต่อกันในลีก (นับข้ามฤดูกาล), ซัลโว 101 ประตูใน “ไทยลีก” และซัด 133 ประตูในทุกรายการให้ “ปราสาทสายฟ้า” การที่ดาวยิงระดับตำนานมาจับคู่กันจึงเป็นความน่าสะพรึงกลัวของกองหลังทีมตรงข้ามอย่างปฏิเสธไม่ได้ จากนัดแรกที่ “บีจีพียู” บุกไปยิง “โปลิศ เทโร” ตายคาบ้าน ทั้ง “มุ้ย” และ “ดิโอโก” แสดงให้เห็นแล้วว่า “จูนกันติด” จากการประสานงานที่ทำให้ได้ประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นทั้งสองคนเล่นร่วมกันได้ดีทีเดียว แต่อาจเป็นด้วยแทกติกหรือสภาพความฟิตทำให้ “มุ้ย” มีเวลาในสนามแค่ 60 นาที และในเกมล่าสุดไม่มีชื่อในนัดเปิดบ้านชนะ “ตราด” แต่คาดว่าเกม “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” ที่ “บีจีพียู” จะไปเยือน “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
ในวันเสาร์นี้ทั้ง 2 คน จะกลับมาผนึกกำลังกันล่าตาข่ายแน่นอน นับจากนี้ “ไทยลีก” เหลืออีก 12 นัด ลองทายดูสิว่า “มุ้ย & ดิโอโก” ที่เริ่มนับประตูแรกในฤดูกาลนี้ไปแล้วจะยิงได้ทั้งหมดกี่ประตูในการ “คัมแบ็ก” สู่ “ไทยลีก” ครั้งนี้
Comments