top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนกันดั้ม วิง

งานที่ท้าทาย “ซิโก้” คัมแบ็กสู่ “วีลีก” เวียดนาม

การตัดสินใจกลับไปรับงานคุมทีม “ฮอง อันห์ ยาลาย” ใน “วีลีก” เวียดนาม ของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

กลายเป็นข่าวใหญ่ของวงการฟุตบอลอาเซียน หลายคนตั้งคำถามและรอคอยอยู่นานว่าเมื่อไร “ซิโก้” จะกลับมาทำงานด้านฟุตบอลอีกครั้งหลังประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ “ทีมชาติไทย” ไม่ผิดที่หลายคนจะคิดถึงอดีต “ศูนย์หน้าจอมตีลังกา” เพราะ “ซิโก้” คือกุนซือที่พาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทย


แชมป์ที่ควรได้ไม่ว่าจะเป็น “ซูซูกิคัพ” “ซีเกมส์” หรือ “คิงส์คัพ” นักเตะไทยภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” คว้ามาหมดแล้ว เกมระดับเอเชีย “ซิโก้” ก็ฝากผลงานไว้ที่พาทีมชาติไทยเข้าไปถึง “ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 10 ทีมโซนเอเชีย” รวมถึงคว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ใน “อินชอนเกมส์ 2014” แต่ด้วยผลงานที่ไม่ดีใน ดูบอลสด “ฟุตบอลโลก” รอบ 10 ทีมสุดท้าย รวมถึงเรื่องวุ่นๆนอกสนามที่ดูจะไปต่อด้วยกันไม่ได้กับ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ” ในยุค “ฟ้าเปลี่ยนสี” ที่สุดแล้ว “ซิโก้” ต้องปิดฉากการคุมทีมชาติไทยในที่สุด หลังจากนั้น “ซิโก้” มีโอกาสกลับมาคุมทีมอีกครั้งในระดับสโมสรที่ “การท่าเรือ” ใน “ไทยลีก 2017” แต่เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากผลงาน ของทีมไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นั่นคือการคุมทีมครั้งสุดท้ายของ “ซิโก้” ก่อนที่จะไม่ได้รับงานคุมทีมไหนอีกเลย แต่ก็ใช่ว่าจะห่างหายจากฟุตบอลไปเสียทีเดียว “ซิโก้” เอาเวลาไปเรียนโค้ชระดับ “โปรไลเซนส์” จนสำเร็จเรียบร้อย กระทั่งล่าสุดตกเป็นข่าวตอบรับกลับไปคุม “ฮอง อันห์ ยาลาย” ในที่สุด สาเหตุหลักที่ “ซิโก้” ตัดสินใจกลับไปเวียดนาม เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณ “ด่วน เหงียน ดึ๊ก” ประธานสโมสรฯที่มีความสนิทสนมกันตั้งแต่เคยไปเล่น “วีลีก” เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ย้อนไปราวปี 2002 “ซิโก้” และคู่หู “น้าชู” ชูเกียรติ หนูสลุง ถูก “ฮอง อันห์ ยาลาย” ซื้อตัวจาก “ราชประชา” ไปร่วมทีมแบบเป็นข่าวใหญ่โตสนั่นเวียดนาม นั่นคือการเปิดตัวตลาดของนักเตะไทยใน “วีลีก”

ดูบอลสด

ทำให้หลังจากนั้นมีนักเตะไทยไปค้าแข้งกันหลายสิบชีวิต บางรายอยู่เป็นสิบปีจนได้สัญชาติเวียดนามเลย

ก็มี เอาแค่ที่ “ฮอง อันห์ ยาลาย” หลัง “ซิโก้” และ “น้าชู” พาทีมเลื่อนชั้นจากลีกรองสู่ “วีลีก” ในปีถัดมาทีมก็ดึงเอา “ดุสิต เฉลิมแสน” และ “ศักดิ์ดา เจิมดี” ไปร่วมทีม ปี 2003 “ฮอง อันห์ ยาลาย” คว้าแชมป์ “วีลีก” ทันที ก่อนที่ปี 2004 “ตะวัน ศรีปาน” จะตามไปสมทบแล้วได้แชมป์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่หลังจากนั้น “วีลีก” เริ่มเติบโตมากขึ้น


หลายทีมนำเข้าแข้งต่างชาติฝีเท้าดีมาเสริมทำให้ “ฮอง อันห์ ยาลาย” ที่ยังใช้บริการนักเตะไทยเป็นหลักเริ่มไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากปี 2004 “ฮอง อันห์ ยาลาย” ไม่เคยได้แชมป์ “วีลีก” อีกเลย แม้จะมีคนไทยเข้าไปช่วยอีกมากทั้ง “น้าชัช” ชัชชัย พหลแพทย์ “ดัสกร ทองเหลา” และ “นิรุจน์ สุระเสียง” “ฮอง อันห์ ยาลาย” ของทีมมหาเศรษฐีระดับประเทศ เว็บสตรีมบอล “ด่วน เหงียน ดึ๊ก” อาจผลงานตกลงไปในยอดปลาย แต่ทีมทุ่มกับรากฐานเยาวชนเยอะมาก โดยเฉพาะการร่วมมือกับสถาบัน “JMG” นักเตะจาก “ฮอง อันห์ ยาลาย” พาเหรดไปติดทีมชาติเวียดนามมากมาย แต่ผลงานใน “วีลี” ปล่อยให้ทีมอื่นซ่ามานานนับสิบปี จนต้องมีการดึง “ซิโก้” กลับไปเรียกความยิ่งใหญ่คืนมา นี่จึงเป็นงานทีท้าทายของ “ซิโก้” มากๆที่จะกลับไป “วีลีก” อีกครั้งหลังก่อนหน้านี้เคยกลับไป “ฮอง อันห์ ยาลาย” แล้ว 1 ครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ การกลับไปครั้งนี้ “ซิโก้” ต่างจากวันวานเยอะ ทั้งศาสตร์ลูกหนัง


และประสบการณ์คุมทีมที่มีดีกรีพ่วงทั้ง “อดีตกุนซือทีมชาติไทย” และ “โค้ชระดับโปรไลเซนส์” “ฮอง อันห์ ยาลาย” จบ “วีลีก” ฤดูกาลล่าสุดด้วยอันดับ 7 แต่ฤดูกาลหน้าเมื่อได้ “ซิโก้” ไปคุมทีมจะจบที่ตำแหน่งไหน...คอยติดตามดูกัน​

ดู 8 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page